วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2555

ภัยอันดับหนึ่ง : ภัยจากการใช้งานโปรแกรมประเภท "Social Networks" โดยไม่ระมัดระวัง ("Social Network Attack")

ภัยอันดับหนึ่ง : ภัยจากการใช้งานโปรแกรมประเภท "Social Networks" โดยไม่ระมัดระวัง ("Social Network Attack")




ปัญหาด้านความปลอดภัยของการใช้งานโปรแกรมประเภท Social Network ก็คือ ความรู้เท่าไมถึงการณ์ของผู้ใช้ที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศดีพอ เริ่มจากการใช้ Email address เป็นชื่อในการ Login และ ใช้รหัสผ่านของ Email ที่ใช้อยู่ เช่น Hotmail หรือ Gmail เป็นรหัสผ่านของโปรแกรมประเภท Social Network เช่น Facebook หรือ Twitter ซึ่งหลายคนไม่รู้ว่า ความจริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องใช้รหัสผ่านเดียวกัน เราสามารถใช้รหัสผ่านคนละรหัสผ่านได้ การที่เราใช้รหัสผ่านเดียวกับ email จะทำให้ถูกเจาะระบบได้ง่าย เพราะโปรแกรม Social Network ส่วนใหญ่มัก Log on หรือ Sign on โดยใช้โปรโตคอล http ที่ไม่มีความปลอดภัยเท่ากับโปรโตคอล https หรือ "SSL" ที่เรารู้จักกันดีในกลุ่มผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตแบงค์กิ้ง จึงสามารถถูกแฮกเกอร์ดักจับรหัสผ่าน (Sniff) ได้โดยง่าย จากนั้นแฮกเกอร์ก็สามารถเจาะเข้าถึง Email ของเหยื่อแล้วสวมรอยเป็นตัวเหยื่อได้อย่างง่ายดาย ดังนั้น จึงควรระมัดระวังเรื่องการใช้รหัสผ่านดังกล่าว

ปัญหาอีกปัญหาหนึ่งที่พบประจำ คือ ปัญหาข้อมูลส่วนตัวของเรารั่วไหลออกไปยังกลุ่มมิจฉาชีพโดยไม่ได้ตั้งใจ กล่าวคือ หากเราสมัคร Facebook จากโทรศัพท์มือถือทาง Facebook จะให้เรา Confirm ด้วยเบอร์โทรศัพท์มือถือของเราเท่ากับเราได้บอกเบอร์โทรศัพท์ให้กับ Facebook ไปโดยปริยาย ซึ่งการสมัคร Facebook จากเครื่อง Notebook หรือ เครื่อง Desktop จะไม่ต้องกรอกข้อมูลเบอร์โทรศัพท์ดังกล่าว นอกจากนั้น หลายคนยังใส่เบอร์โทรศัพท์ รวมทั้ง วัน เดือน ปีเกิด เข้าไปในระบบของ Facebook โดยไม่ระมัดระวัง เป็นเหตุให้มิจฉาชีพสามารถค้นหาเบอร์โทรศัพท์มือถือ และข้อมูลส่วนตัว เช่น วัน เดือน ปีเกิด เราได้อย่างง่ายดาย จึงไม่ควรป้อนข้อมูลส่วนตัวดังกล่าวให้กับโปรแกรมประเภท Social Network โดยไม่จำเป็น ยิ่งเราใส่ข้อมูลส่วนตัวลงไปเท่าใดก็ยิ่งเปิดช่องให้แฮกเกอร์และเหล่ามิจฉาชีพสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของเราได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น

ในปัจจุบันแฮกเกอร์สมัยใหม่ได้ใช้เทคนิคใหม่ ๆ ในการหาข้อมูลของเป้าหมายที่เรียกว่า "Target Profiling" หรือ "Targeted Attack" โดยใช้เทคนิค "Intelligence Information Gathering" ซึ่งมีความล้ำหน้ากว่าการหาข้อมูลจากการ Search จาก Google โดยการใช้ Software ที่ถูกออกแบบมาเจาะหลังบ้านของ Facebook และ Twitter โดยตรง ซึ่งปกติแล้วจาก Twitter และ Facebook จะเปิดช่องหรือเปิด API ให้โปรแกรมเมอร์เข้ามาใช้ดึงข้อมูลของผู้ใช้ Facebook และ Twitter เพื่อใช้ในการเขียนโปรแกรม Game ต่าง ๆ ที่ทำงานอยู่ใน Social Network โดยปกติแล้วเฉพาะโปรแกรมเมอร์ที่มี API เท่านั้นจึงสามารถเข้าถึงข้อมูลหลังบ้านจาก Server ที่เรียกว่า "TAS" หรือ "Transformation Server" (ดูรูปที่ 1 และ 2) แต่โปรแกรมที่แฮกเกอร์ใช้ในการเจาะระบบ Social Network หรือ โปรแกรมที่หน่วยข่าวกรอง เช่น CIA หรือ FBI ใช้ มีความสามารถเข้าไป "Search" ข้อมูลเชิงลึกจาก Server หลังบ้านในระบบผู้ให้บริการ Social Network ดังกล่าวได้ เราจึงต้องระวังให้มากเวลาที่จะป้อนข้อมูลส่วนตัวของเราลงในโปรแกรมประเภท Social Network ดังกล่าว


ที่มาของข้อมูล http://www.acisonline.net/article/?p=15

ทางเลือกใหม่ แจ้งภาวะฉุกเฉินผ่าน Social Network


ทางเลือกใหม่ แจ้งภาวะฉุกเฉินผ่าน Social Network
        ในอดีตเมื่อมีเหตุด่วนเหตุร้าย หรือสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น คนทั่วโลกมักจะใช้โทรศัพท์ และวิทยุเป็นเครื่องมือในการประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ ซึ่งหลายครั้งก็ประสบกับปัญหาโทร ไม่ติด ระบบขัดข้อง ทำให้ไม่ได้รับข้อมูลระหว่างการประสานงานได้อย่างเต็มที่ แต่ในยุคที่อินเทอร์เน็ตได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันอย่างทุก วันนี้ ดูเหมือนว่าโทรศัพท์ วิทยุ และรูปแบบการสื่อสารเหตุฉุกเฉินแบบเดิม ๆ จะล่าช้าไปเสียแล้ว เมื่อมีช่องทางการสื่อสารรูปแบบใหม่ที่รวดเร็วทันใจ และช่วยให้ประสานงานกันได้ง่ายและมีประสิทธิภาพกว่าเดิม

ขอความช่วยเหลือผ่านทาง  Social Network
ขอความช่วยเหลือผ่านทาง  Social Network
         และช่องทางการประสานงานเหตุฉุกเฉินรูปแบบใหม่นี้ ก็คือ เครือข่ายสังคมออนไลน์ หรือ Social Network ที่เริ่มจะกลายเป็นที่นิยมและมีบทบาทในชีวิตคนทั่วโลกเมื่อประมาณ 5-6 ปีที่ผ่านมา จนวันนี้ กระแสความนิยมนั้นได้ทำให้เครือข่ายสังคมออนไลน์กลายเป็นช่องทางการประสาน งานที่มีประสิทธิภาพ ด้วยจำนวนผู้ใช้จำนวนมากที่ครอบคลุมทุกสังคมทุกพื้นที่ มันจึงทำให้การประสานงานยามฉุกเฉินเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว ทั่วถึง แถมยังสามารถส่งความช่วยเหลือไปในแต่ละพื้นที่ได้อย่างตรงความต้องการของผู้ ประสบเหตุอีกด้วย

ผู้บริการทาง Social Network มีมากมาย
ผู้บริการทาง Social Network มีมากมาย


         ด้วยเหตุนี้ หลายประเทศทั่วโลก จึงได้นำเครือข่ายสังคมออนไลน์มาใช้เป็นช่องทางประสานงานเหตุฉุกเฉินทุกชนิด โดยเฉพาะประเทศที่ทรงอิทธิพลอย่าง สหรัฐอเมริกา ที่ทุกวันนี้ดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับการสร้างเครือข่ายฉุกเฉินบนเครือข่าย สังคมออนไลน์ และมีการสนับสนุนให้ใช้กันอย่างกว้างขวางมากขึ้นอยู่ในขณะนี้ หลังจากที่ผ่านมา มีการพบว่า เครือข่ายสังคมออนไลน์ตอบสนองเหตุฉุกเฉินได้รวดเร็ว และแทบไม่ต้องใช้เวลาในการกระจายข่าวไป ยังอีกมุมโลกเลย เช่น ในช่วงที่แม่น้ำเรดริเวอร์ในนอร์ธดาโกตาและมินเนสโซตาเริ่มเอ่อล้นท่วมบ้าน เรือนประชากร ผู้คนกว่า 2,600 คนที่ใช้ทวิตเตอร์ในขณะนั้น ได้รับการเตือนจากองค์กรจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินและเตรียมอพยพได้ทัน หรือช่วงที่องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ ประกาศเรียกคืนถั่วพิสทาชิโอปนเปื้อนเชื้อโรค ผู้คนกว่า 3,000 คนก็ได้รู้ข่าวทันทีที่มีการประกาศลงบนเพจในเฟซบุ๊ก หรือในช่วงที่มีเหตุฉุกเฉิน ปิดถนนต่าง ๆ ก็ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นช่องทางประชาสัมพันธ์ที่ผู้คนเข้าถึง ง่ายกว่านั่นเอง ซึ่งปัจจุบันนี้ หากรวมหน้าเพจของหน่วยงานฉุกเฉินต่าง ๆ ที่คอยให้ความช่วยเหลือและพร้อมประสานงานอย่างทันท่วงทีบนเครือข่ายสังคมออ นไลน์อย่างเฟซบุ๊ก ก็มีราว ๆ 500 เพจทั่วสหรัฐฯ เลยทีเดียว

สามารถรับ-ส่งข้อมูลข่าวสารได้ทั่วโลก
สามารถรับ-ส่งข้อมูลข่าวสารได้ทั่วโลก


        สำหรับ ประโยชน์ที่เห็นได้ชัดของการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ระหว่างเกิดเหตุฉุก เฉิน กลุ่มหน่วยฉุกเฉินของสหรัฐฯ ที่สนับสนุนการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ได้ระบุไว้ ดังนี้


        1. ข้อความขอความช่วยเหลือจะแสดงในหน้าเพจหลายครั้ง ไม่ว่าจะมีคนเข้าไปดูเพจเวลาใดก็จะมีข้อความขึ้นเตือนอยู่หลายครั้งจนกว่าจะ ได้อ่านข้อความนั้น


        2. มีโอกาสสูงที่สื่ออย่างโทรทัศน์จะนำข้อมูลไปเผยแพร่ต่อ และข่าวสารก็จะเข้าถึงกลุ่มคนอีกกลุ่มที่ไม่ได้ใช้บริการเครือข่ายสังคมออ นไลน์ ทำให้ข่าวสารครอบคลุมไปถึงคนทุกกลุ่ม
        3. สามารถประเมินผลกระทบของผู้ประสบเหตุได้ เพราะรายละเอียดที่แจ้งในเพจของหน่วยฉุกเฉินนั้น ล้วนมาจากผู้ประสบเหตุ หรือผู้ใกล้ชิดผู้ประสบเหตุอย่างแท้จริง จึงทำให้รับรู้ความเสียหายและความต้องการของผู้ประสบเหตุแน่ชัด


        4. มีการประสานงานอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ เนื่องจากสามารถโต้ตอบได้ภายในเพจ จึงทำให้รู้ความเคลื่อนไหวของขั้นตอนการช่วยเหลือต่าง ๆ และทำให้รู้ว่าหน่วยฉุกเฉินได้ให้ความช่วยเหลือด้านใด แห่งใดไปแล้วบ้าง


        5. มีการประสานงานช่วยเหลือเป็นหนึ่งเดียวกัน เพจหน่วยฉุกเฉินเปรียบเสมือนห้องประชุมขนาดใหญ่ที่ผู้คนจากทั่วโลกสามารถมา นั่งคุยกันได้ และประสานงานช่วยเหลือไปพร้อม ๆ กันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Social Network  สามารถกระจายข่าวได้อย่างรวดเร็ว
Social Network  สามารถกระจายข่าวได้อย่างรวดเร็ว


        จากประโยชน์ของเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใช้ในการประสานงานช่วยเหลือดังกล่าว จึงไม่แปลกอะไรเลยที่ทุกวันนี้มีการสนับสนุนให้หน่วยฉุกเฉินได้ใช้เครือข่าย สังคมออนไลน์เป็นเหมือนหอกระจายข่าวที่ผู้รับสารจะรับสารได้ทันทีไม่มีคลาด เคลื่อน และถ้าหากหน่วยฉุกเฉินของประเทศไทยมีการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นช่อง ทางในการรับแจ้งเหตุสถานการณ์ฉุกเฉิน ก็คงจะเป็นประโยชน์ในการประสานงานช่วยผู้ประสบเหตุได้ทันถ่วงที

ที่มา http://www.dmc.tv/pages/scoop/Social-Network.html

วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555

ระทึก!! แผ่นดินไหวล่าสุด แผ่นดินไหวเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย 8.9 ประกาศเตือนสึนามิแล้ว

ระทึก!! แผ่นดินไหวล่าสุด แผ่นดินไหวเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย 8.9 ประกาศเตือนสึนามิแล้ว ระทึก!! แผ่นดินไหวล่าสุด แผ่นดินไหวเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย 8.9 ประกาศเตือนสึนามิแล้ว
แผ่นดินไหวล่าสุด เกิดแผ่นดินไหว 8.9 ริกเตอร์ บริเวณเกาะสุมาตรา สะเทือนไกลถึงภาคใต้ของไทย และตึกสูงกทม แผ่นดินไหว อินโดนีเซีย 2012 
ด่วน! แผ่นดินไหว อินโดนีเซีย 2012 แผ่นดินไหวล่าสุด แผ่นดินไหว 8.9 ริคเตอร์ เกาะสุมาตรา อินโดฯ สะเทือนไกลถึงภาคใต้ของไทย -ตึกสูงกทม.สั่งอพยพบางพื้นที่ภูเก็ต-พังงาสายด่วนศูนย์เตือนภัยพิบัติฯ โทร. 192 และสายด่วนศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน โทร. 1669ศูนย์แจ้งข่าว รายการสถานีประชาชน : 02-790-2111 Fax. 02-790-2089


11/4/2012 18.26 น. คลื่นสึนามิสูง 10 เซนติเมตร พัดเข้าสู่เกาะเมียง จังหวัดพังงา
11/4/2012  คลื่นสึนามิลูกแรกซึ่งมีความสูงขั้นต่ำ 17 เซนติเมตรได้ซัดถล่มพื้นที่แถบชายฝั่งทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย แล้ว
11/4/2012 17.26 น. (เนชั่นสุดสัปดาห์ NationWeekend)  (เกาะ ติดเหตุแผ่นดินไหว) ซีเอ็นเอ็น รายงานข่าวเกิดคลื่น 6 เมตรที่อินโด แต่ยังไม่เกิดสึนามิ พร้อมได้มีการอพยพปชช.ที่เกาะนิโคบา ซึ่งอยู่ทางมหาสมุทรอินเดีย-อันดามัน

11/4/2012  เวลา 17:15 น.(ไทยรัฐ) ชาวกระบี่อพยพหนีตาย เผยน้ำทะเลภูเก็ตเริ่มลดลง 
ชาวกระบี่ ตื่นตระหนกแผ่นดินไหว หวั่นคลื่นสึนามิซัดเหมือนปี 2547 อพยพหนีตายขึ้นที่สูง ขณะที่โรงพยาบาลกระบี่ รู้สึกสั่นสะเทือนรุนแรง ตู้เอกสารสั่นไปมา

              เวลา 17.00 น. ภาพนี้ สุสานหอย จ.กระบี่ครับ น้ำลดลงไปเร็ว และเยอะมากครับ โพสต์โดย #ม้าเร็ว สยามประเทศภาพจากบริเวณหาดป่าตอง น้ำเริ่มลดแล้ว โพสต์โดย อาสาฯคนไทยช่วยน้ำท่วม


หน้าห้างเซ็นทรัลภูเก็ต ผู้คนอพยพ มาอยู่บริเวณนี้เป็นจำนวนมาก
 

         Clip แผ่นดินไหว และ คลิป แผ่นดินไหว สึนามิ ล่าสุดจากอินโดนีเซีย 11/4/2012


(16.50 ไทยรัฐ)เตือนสึนามิ 1.6 เมตร คาดถึงภูเก็ต 17.40 น. สั่งอพยพด่วน!



ภาพถ่ายการ ระยะเวลาการเดินทางของคลื่นสึนามิ แจ้งอพยพ 6 จังหวัดภาคใต้ด่วน ภูเก็ต กระบี่ ตรัง ระนอง พังงา สตูล

ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ระบุ คลื่นสึนามิจะเดินทางมาถึงฝั่งจังหวัดภูเก็ตเวลาประมาณ 17.40 น. โดยคาดว่าคลื่นจะมีความสูงประมาณ 1 เมตรกว่า สั่งประชาชนอพยพขึ้นที่สูงด่วน...
 

นาวาอากาศเอกสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ ผู้อำนวยศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ว่า ล่าสุดได้สั่งให้อพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ในจังหวัดฝั่งทะเลอันดามันแล้ว เนื่องจากคลื่นสึนามิจะเดินทางมาถึงฝั่งจังหวัดภูเก็ตประมาณเวลา 17.40 น. โดยคาดว่าคลื่นจะมีความสูงประมาณ 1 เมตรกว่า ส่วนจังหวัดต่างๆ ที่รับแรงสั่นสะเทือนได้ ทั้งในฝั่งอ่าวไทย ยืนยันว่ายังไม่ได้รับผลกระทบ

อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณเตือนภัย ให้อพยพออกจากพ้นที่เป็นการด่วน เพื่อความปลอดภัยในชีวิต
 

ทั้งนี้ ศูนย์เตือนภัยประกาศทาง sms ว่า เมื่อเวลา 15.38 น. แผ่นดินไหวในทะเล 8.9 R. บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตราความลึก 10 กม. จึงขอแจ้งเตือนภัยเพื่ออพยพไปที่ปลอดภัยโดยเร็ว และติดตามข้อมูลเพิ่มเติมศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
 

ล่าสุด กำนันคนหนึ่ง ของอำเภอบางม่วง จังหวัดพังงา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยเกิดเหตุสึนามิเมื่อปี 2547 เปิดเผยว่า ขณะนี้ชาวบ้านเกิดความตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน จึงได้พากันอพยพหนีขึ้นไปยังที่สูงแล้ว เนื่องจากไม่มั่นใจว่าจะเกิดสึนามิขึ้นอีกหรือไม่

อย่าง ไรก็ตาม จากการโทรศัพท์มือถือติดต่อประชาชนที่อยู่พื้นที่ภาคใต้ พบว่าไม่สามารถติดต่อได้ จึงอาจเป็นไปได้ว่าคลื่นสัญญาณอาจมีปัญหาจากเหตุแผ่นดินไหว
 

ขณะที่ รายงานจากทวิตเตอร์ ระบุว่า @iTICFoundation: ถนนพระราม 4 หัวลำโพง การจราจรยังเคลื่อนตัวได้ดี ขณะนี้มีฝนตกถนนลื่นอันตราย แผ่นดินไหว 8.9 ริกเตอร์ บริเวณสุมาตรา ตึกสูงรู้สึกได้ เวียนหัวเลย @js100radio สาทรใต้ อาคารไทยซีซีแผ่นดินไหวคะ อยู่ชั้น 33 เวียนหัวเลย @act_02: ภูเก็ตแผ่นดินไหวครับ รับความรู้สึกได้ครับ แต่รายงานล่าสุดตอนนี้บอกว่าแผ่นดินไหวเกิดที่เกาะสุมาตรา ฝั่งอันดามัน.

ที่มา http://www.thairath.co.th/content/tech/252451


-----------------------------------------------------------------------------------

สึนามิ แผ่นดินไหว อินโดนีเซีย ล่าสุด 2012 
 แผ่นดินไหว อินโดนีเซีย 2012 แผ่นดินไหวล่าสุด แผ่นดินไหว 8.9 ริคเตอร์ เกาะสุมาตรา อินโดฯ สะเทือนไกลถึงภาคใต้ของไทย -ตึกสูงกทม.สั่งอพยพบางพื้นที่ภูเก็ต-พังงา
นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.54 น. ได้เกิดเหตุเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ใกล้เกาะสุมตรา ประเทศอินโดนีเซีย ขนาดความแรงที่ 8.9 ริกเตอร์ โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย โดย มีศูนย์กลางลึกลงไปในทะเล 33 กม. ห่างจากชายฝั่งจังหวัดอาเจะห์ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตราออกไป ประมาณ 435 กม.แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายเข้ามา ถ้าใกล้ระดับ 9 ริกเตอร์ ก็มีโอกาสที่จะเกิดสึนามิ ตอนนี้เรากำลังเฝ้าระวังและติดตามอย่างใกล้ชิด รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าว
ขณะที่สำนักงานธรณีวิทยาของสหรัฐวัดได้ 8.9 ริกเตอร์ และประกาศเตือนภัยสึนามิแล้ว  อย่างไรก็ดี กระทรวงไอซีทีได้ประกาศอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว

สำหรับเหตุแผ่นดินไหวล่าสุด ครั้ง นี้ประเทศในแถบมหาสุมุทรอินเดียทั้งประเทศอินเดีย มัลดีฟ ศรีลังกา พม่า สิงคโปร์ มาเลเซีย รวมทั้ง 6 จังหวัดภาคใต้ของไทยคือ จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง และสตูล โดยบรรดาตึกและอาคารสูงทั้ง 6 จังหวัด รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทอนจนตึกและอาคารสั่นไหว โดยเฉพาะโคมไฟที่ติดตั้งในตัวอาคารเห็นการสั่นไหวได้อย่างชัดเจน จนประชาชนพากันตื่นตระหนกบางรายถึงกับเป็นลมพับไปก็มี

ขณะเดียวกัน ได้มีการประกาศเตือนภัยสึนามิทั้ง 6 จังหวัด เจ้าหน้าที่ได้อพยพประชาชนที่อยู่ตามชายฝั่งทะเลอันดามันไปยังที่ปลอดภัย อย่างเร่งด่วนแล้ว  ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ศูนย์ข่าวภาคใต้ รายงานว่า แผ่นดินไหวล่าสุด เกิด แรงสั่นสะเทือนมาถึงพื้นที่แถบจังหวัดอันดามันและอ่าวไทย อาทิ จ.นครศรีธรรมราช กระบี่ ภูเก็ต พังงา ระนอง  ตรัง สตูล รวมไปถึงสงขลา และ จ.นราธิวาส ส่วนที่ จ.สุราษฎร์ธานี แรงสั่นสะเทือนทำให้ผู้ที่อยู่ตามตึกสูง โดยเฉพาะที่อาคารพีซีทาวเวอร์ อาคารที่สูงที่สุดในจังหวัดที่เปิดเป็นสำนักงานเช่า ต้องรีบอพยพพนักงานกว่า 300 ชีวิตออกมาจากตึกอย่างโกลาหล

เช่นเดียวกับที่ รพ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ต้องรีบเคลื่อนย้ายผู้ป่วยลงจากตึกสูง ขณะเดียวกัน ไม่สามารถใช้เครื่องมือสื่อสารติดต่อได้ เพราะอาจเกิดเครือข่ายระบบคมนาคมล่ม โดยระยะเวลาที่เกิดแผ่นดินไหวประมาณ 1-2 นาที อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานความเสียหาย ล่าสุด ที่จังหวัดภูเก็ต ได้ประกาศเตือนภัยสึนามิ และอพยพผู้คนไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว

เรียบเรียงข่าวโดย horoworld.com
ที่มาจาก :www.posttoday.com , www.matichon.co.thwww.dailynews.co.th

งานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ

 งานพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ
(๑๑ เมษายน ๒๕๕๕)
           เมื่อวันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๖.๓๐ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณา   โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ   แทนพระองค์ พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี    
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา  พระเจ้าวรวงศ์เธอ     พระองค์เจ้าโสมสวลี
พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงจุดธูปเทียน  เครื่องราชสักการะพระบรมอัฐิและพระอัฐิสมเด็จพระบรมราชบุพการีที่เชิญออก ประดิษฐานบนแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร และพระอัฐิ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ณ พระแท่นสุวรรณเบญจดล
       จากนั้นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ไปถวายพัดรองที่ระลึกงานทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระอัฐิ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี แด่สมเด็จพระราชาคณะ
          จากนั้นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร สมเด็จพระบรมราชบุพการี และพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ที่พระแท่นมณฑลมุก
           
                 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม ทรงหลั่งทักษิโณทก ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ ทรงทอดผ้าไตร ทรงหลั่งทักษิโณทก ทรงกราบที่หน้าพระพุทธรูปประจำพระชนมวารพระอัฐิ ที่พระแท่นมณฑลมุก เสด็จฯ ไปทรงกราบพระบรมอัฐิและพระอัฐิสมเด็จพระบรมราชบุพการี ที่หน้าพระแท่นนพปฎลเศวตฉัตร แล้วเสด็จฯ ไปทรงกราบพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ  เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา  สิริโสภาพัณณวดี  จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินกลับ

อรวิน บุตรวงศ์ / ข่าว
อริสา เตียงบุญลาภ / พิมพ์

วันจันทร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2555

พสกนิกรร่วมใจส่งเจ้าฟ้าฯเสด็จสวรรคาลัย

พระเจ้าอยู่หัว-พระราชินีเสด็จพระราชทานเพลิงสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯทรงประกอบพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯพระราชทานสัปตปฎลเศวตฉัตรกางกั้นพระโกศ ด้านทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือคลื่นมหาชนร่วมรับเสด็จฯ รวมทั้งร่วมแสดงความอาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ สู่สวรรคาลัยเป็นครั้งสุดท้ายhttp://www.thairath.co.th/content/newspaper/251741